นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ จัดทำขึ้นโดย บริษัท วาย.เอ็ม.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล ไทย จำกัด 

บริษัท วาย.เอ็ม.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล ไทย จำกัด (ซึ่งต่อไปเรียกว่า “บริษัทฯ”) ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นอันเกี่ยวกับท่านที่ได้มอบหรือจะได้มอบไว้ให้แก่ทางบริษัทฯ เพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่าบริษัทฯมีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จึงได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงให้ท่านทราบและเข้าใจรายละเอียดและวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งดำเนินการโดยบริษัทฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องผู้ดำเนินการแทนหรือในนามของบริษัทฯ

  1. ขอบเขตของนโยบายฉบับนี้

นโยบายฉบับนี้ครอบคลุมข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับ หรือเก็บรวบรวมจากการที่ท่านเข้าเยี่ยมชม ซื้อสินค้าและบริการ สมัครสมาชิก ให้คำแนะนำ ติชม ร้องเรียน การทำแบบสำรวจหรือแบบสอบถาม หรือทำกิจกรรมอื่นใดเท่าที่จำเป็นผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ และร้านค้าของบริษัทฯ จะไม่ครอบคลุมถึงการใช้งานของท่านบนเว็ปไซต์ แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ของบุคคลที่สามที่สามารถเชื่อมโยงมายังเว็ปไซต์ ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัทฯ และไม่ครอบคลุมถึงร้านค้าที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงขอแนะนำให้ท่านได้โปรดอ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจวิธีการ แนวทาง และวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  1. คำนิยาม

“บริษัท” หมายถึง บริษัท วาย. เอ็ม.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล ไทย จำกัด 

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวตนของท่าน หรืออาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม ตัวอย่าง ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ สกุล อายุ เพศ สัญชาติ วันเดือนปีเกิด หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ หรือที่อยู่ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail address) เป็นต้น

“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในที่นี้ให้หมายถึง “ท่าน” ในฐานะลูกค้า

“บุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดา ไม่รวมถึงนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย เช่น บริษัท, สมาคม, มูลนิธิ หรือองค์กรอื่นใด

“เว็บไซต์ของบริษัท” หมายถึง เว็บไซต์ของบริษัท 

“ร้านค้าของบริษัท” หมายถึง ร้านค้าที่อยู่ภายใต้การดูแลของ บริษัท วาย. เอ็ม.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล ไทย จำกัด 

“แบรนด์ หรือตราสินค้า” หมายถึง  แบรนด์ หรือตราสินค้าที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทฯ ได้แก่ YaccoMaricard (ยัคโกะมาริคาด) Shaka (ชากะ) Shaka Leisure (ชากะ เลเชอร์) Shaka Saku (ชากะ ซากุ) Zanpu (ซานปุ) และ Shakafe (ชาคาเฟ่) ซึ่งอาจจะมีการอัพเดทอยู่เป็นระยะ ๆ 

 

  1. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัท

ในระหว่างที่ท่านเข้าถึงหรือใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัท ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ช่องทางโทรศัพท์ และร้านค้าของบริษัท บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมหรือรับมอบข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุถึงตัวตนของท่าน ดังนี้

3.1     ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ คำนำหน้าชื่อ, ชื่อ-นามสกุล, เพศ, วันเดือนปีเกิด, อายุ, หมายเลขบัตรประชาชน, หมายเลขหนังสือเดินทาง, เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร, สัญชาติ เป็นต้น

3.2     ข้อมูลเพื่อการติดต่อ ได้แก่ หมายเลขโทรศัพท์, ที่อยู่ทางไปรษณีย์เพื่อจัดส่งสินค้า, ที่อยู่สำหรับระบุในใบเสร็จรับเงิน, ที่อยู่ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail address), บัญชีผู้ใช้ในเว็บไซต์ โซเชียล เป็นต้น

3.3     ข้อมูลทางการเงิน ได้แก่ ข้อมูลบัตรเดบิต/บัตรเครดิต

3.4     ข้อมูลการทำธุรกรรมการซื้อขายสินค้าและบริการ ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับการรับชำระเงินจากท่าน/คืนเงินไป ยังท่าน, วันที่ชำระเงิน, เวลาชำระเงิน, ยอดชำระเงิน, หมายเลขการซื้อหรือคำสั่งซื้อ, วัน/เวลาในการรับหรือจัดส่งสินค้า, ข้อความตอบรับสินค้าจากท่าน, ข้อมูลการรับประกันสินค้า, คำร้องเรียนและข้อร้องเรียน และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อสินค้าและบริการจากท่าน

3.5     ข้อมูลการเป็นสมาชิก ได้แก่ รายละเอียดข้อมูลบัญชีสมาชิก, หมายเลขบัตรสมาชิก, คะแนนสะสม, ประเภทสมาชิก, วันที่สมัครสมาชิก, ระยะเวลาการเป็นสมาชิก และข้อมูลการเป็นสมาชิกอื่นๆ

3.6     ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรม ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการของท่าน และข้อมูลการตอบรับความพึงพอใจของท่านที่มีต่อการให้บริการของบริษัท

ทั้งนี้ การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบริษัทจะจัดเก็บอย่างจำกัดและเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในข้อ 4. ของนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เท่านั้น

ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน บริษัทจะขอความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรหรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์จากท่านโดยชัดแจ้งก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งท่านมีสิทธิที่จะไม่ให้ความยินยอมในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลก็ได้ ทั้งนี้ หากท่านเลือกที่จะไม่ให้ความยินยอมหรือเพิกถอนความยินยอมอาจส่งผลทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้

นอกจากนี้ การเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนไร้ความสามารถ บริษัทจะเก็บรวบรวม ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลเท่านั้น บริษัทจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลจากลูกค้าที่เรารู้โดยแจ้งชัดว่าอายุต่ำกว่ายี่สิบปี หรือจากคนเสมือนไร้ความสามารถและคนไร้ความสามารถหากไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล ในกรณีที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอม ในกรณีที่บริษัททราบว่าบริษัทได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีเจตนาจากบุคคลใดๆ ที่อายุต่ำกว่ายี่สิบปี คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล บริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลดังกล่าวทันที หรือประมวลผลเฉพาะในส่วนของข้อมูลที่บริษัทสามารถกระทำได้บนฐานทางกฎหมายอื่นๆ นอกเหนือจากการขอความยินยอม

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านมอบให้แก่บริษัทจะต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ เป็นความจริง และไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และท่านจะต้องอัพเดทข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน และแจ้งให้บริษัททราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่างๆ ผ่านช่องทางการติดต่อบริษัทที่ระบุไว้ในข้อ 11. หากท่านเลือกที่จะไม่ส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บริษัทหรือเลือก ที่จะเพิกถอนความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจส่งผลทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้

  1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

4.1   เพื่อใช้สำหรับการสื่อสารและให้ข้อมูลที่จำเป็นของบริษัทเกี่ยวกับสินค้า รายการสินค้าอัพเดท รายการโปรโมชั่นหรือแคมเปญที่บริษัทจัดขึ้นหรือที่จะจัดขึ้น และสิทธิพิเศษอื่นๆ เพื่อประโยชน์ของท่าน ซึ่งการให้ข้อมูลจะทำผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail), ข้อความทางโทรศัพท์ (SMS), หรือวิธีการอื่นที่เหมาะสมตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้

4.2     เพื่อให้สิทธิพิเศษต่างๆ อันได้แก่ สิทธิประโยชน์ในวันเกิดและ/หรือเดือนเกิด สิทธิประโยชน์จากแต้มคะแนนสะสมเพื่อใช้เป็นส่วนลดหรือแลกรับของกำนัล เป็นต้น

4.3     เพื่อเชิญเข้าร่วมกิจกรรม และการเปิดตัวสินค้าของบริษัท

4.4     เพื่อจัดส่งเอกสาร เช่น แค็ตตาล็อก (catalogue) การ์ดอวยพรวันเกิด เป็นต้น

4.5     เพื่อจัดส่งสินค้า รับคืนสินค้าที่ท่านซื้อจากบริษัท

4.6     เพื่อจัดการ ดำเนินการชำระเงินเกี่ยวกับธุรกรรมทางพาณิชย์เกี่ยวกับการซื้อสินค้าของท่านกับบริษัทให้สำเร็จ

4.7     เพื่อนำไปใช้ประมวลผล วิเคราะห์ ในการปรับปรุงสินค้าและการให้บริการให้เหมาะสมและตรงต่อความต้องการของท่านให้มากที่สุด

4.8   เพื่อนำไปใช้ในการวิจัยตลาด การสำรวจความคิดเห็น การวิเคราะห์การตลาดภายใน การจัดทำข้อมูลลูกค้า การวิเคราะห์รูปแบบและทางเลือกซื้อสินค้าของลูกค้า การวางแผนและการวิเคราะห์ทางสถิติ และแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและ/หรือบริการของบริษัท

4.9     เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่จำเป็นในการดำเนินการ การบำรุงรักษา รวมถึงการจัดการธุรกิจของบริษัท และความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลภายนอก

บริษัทอาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ โดยบริษัทจะส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไปยังบุคคลดังต่อไปนี้

5.1   ตัวแทน บริษัทในเครือ หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องที่ตั้งอยู่ภายในประเทศไทย หรือในต่างประเทศ

5.2   ตัวแทน และผู้รับจ้าง หรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ทั้งนี้ เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ให้บริการแก่บริษัทและท่าน (เช่น ผู้ให้บริการเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า, ผู้ให้บริการเก็บรักษาและคลังสินค้า, ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์, ผู้ให้บริการจัดทำและจัดส่งเอกสาร เช่น แค็ตตาล็อก (catalogue) หรือ การ์ดอวยพรวันเกิด เป็นต้น, ที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญ, ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคม, ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ, ผู้ให้บริการด้านการตลาดและการส่งเสริมการขาย เป็นต้น) ทั้งนี้ บุคคลภายนอกที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้นั้น บริษัทจะมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองและปลอดภัย เช่น การตกลงทำสัญญาที่มีเงื่อนไขให้บุคคลภายนอกมีสิทธิใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่กำหนดไว้ในสัญญาเท่านั้น, การตกลงให้ทำสัญญารักษาความลับทางการค้า (Non-Disclosure Agreement) เพื่อรักษาความลับของข้อมูลส่วนที่ได้รับเพื่อดำเนินธุรกิจ เป็นต้น

5.3   เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องบัญญัติไว้

  1. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่บริษัทได้มีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายนี้ ท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้ ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

6.1  สิทธิที่จะได้รับการแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม วิธีการเก็บรวบรวม วัตถุประสงค์ในการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ บุคคลที่จะได้รับข้อมูล และระยะเวลาที่จัดเก็บข้อมูล

6.2   สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท

6.3   สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นได้

6.4   สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านเมื่อใดก็ได้

6.5   สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

6.6   สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นการชั่วคราวได้

6.7   สิทธิในการขอให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน

6.8  สิทธิที่จะร้องเรียนต่อบริษัท หรือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหากท่านเห็นว่าสิทธิใดๆ ของท่านได้ถูกบริษัทละเมิดเป็นเหตุทำให้เกิดความเสียหายแก่ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

6.9   สิทธิที่จะขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมไว้

ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะใช้สิทธิตามที่กล่าวข้างต้น ท่านจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่เหมาะสม และไม่เกินกว่าระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด

การใช้สิทธิขอลบ ทำลาย ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ขอให้ระงับการใช้ข้อมูลเป็นการชั่วคราว หรือการเพิกถอนความยินยอม อาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้

  1. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายนี้เท่านั้น ยกเว้นในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวในระยะเวลานานกว่านั้น และในกรณีที่พ้นระยะเวลาการจัดเก็บ หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่มีความจำเป็น ทางบริษัทจะทำการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

  1. มาตรการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ และบริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม

  1. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางบริษัทจะได้ประกาศและแสดงลงบนเว็ปไซต์ของบริษัท หรือด้วยวิธีการอื่นที่เหมาะสม

  1. ข้อมูลเกี่ยวกับคุกกี้

บริษัทใช้คุกกี้ในเว็บไซต์นี้เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยแยกแยะรูปแบบการใช้งานเว็บไซต์ของท่านจากผู้ใช้งานอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราสามารถพัฒนาคุณภาพของเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น กรณีที่ท่านใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไป ถือว่าท่านได้ยินยอมให้เราติดตั้งคุกกี้ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน

  1. การติดต่อบริษัท

หากท่านมีข้อสงสัยที่เกี่ยวกับข้องกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือท่านประสงค์จะใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ในข้อ 6. หรือประสงค์เพิกถอนความยินยอมให้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อได้ที่

 

บริษัท วาย.เอ็ม.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล ไทย จำกัด

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection : DP) ที่ e-mail: dp@ymfthai.comนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และถูกเผยแพร่ในรูปแบบของภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และหากมีความไม่สอดคล้องในความหมายหรือการตีความระหว่างภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ให้ยึดถือตามภาษาไทยเป็นหลัก

วันที่ประกาศนโยบาย 29 เมษายน 2565